ว. คึกฤทธิ์ ปราโมช ได้เริ่มมีการปฏิรูประบบวิทยุกระจายเสียงและวิทยุโทรทัศน์เป็นครั้งแรกเพื่อลดทอนอิทธิพลทางการเมืองของฝ่ายทหาร โดยมีการตั้งคณะกรรมการการบริหารวิทยุกระจายเสียงและวิทยุโทรทัศน์ หรือ กบว. ในปี 2518และมีการออกกฎระเบียบการบริหารวิทยุกระจายเสียงและวิทยุโทรทัศน์ สําหรับการควบคุมการขออนุญาตจัดตั้งสถานีและควบคุมเนื้อหารายการ ผ่านอนุกรรมการตรวจเซ็นเซอร์รายการ ซึ่งการวิพากษ์วิจารณ์ทางการเมืองและสังคมในรายการข่าวและบันเทิงเป็นสิ่งต้องห้ามอย่างไรก็ดี หลังเหตุการณ์รัฐประหาร 6 ตุลาคม 2519 การดําเนินงานของ กบว. ก็ยิ่งเข้มงวดขึ้นโดยกําหนดให้เนื้อหาสาระของข่าวและรายการต่างๆ ต้องส่งเสริมความรักชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์ รวมถึงห้ามนําเสนอเนื้อหาที่ส่งเสริมลัทธิคอมมิวนิสต์ทั้งทางตรงและทางอ้อม การเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่เกิดขึ้นหลังจากเหตุการณ์ "พฤษภาทมิฬ" ในปี 2535 จนเป็นที่มาของการเกิดการเคลื่อนไหวเรื่องการปฏิรูปสื่อ และเกิดมาตรา 40 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ. ศ. 2540 ที่กำหนดให้ "คลื่นความถี่" เป็นทรัพยากรสื่อสารของชาติเพื่อประโยชน์สาธารณะ โดยให้มีองค์กรของรัฐที่เป็นอิสระทำหน้าที่จัดสรรคลื่นความถี่และกำกับดูแลการประกอบกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคม จนมีการประกาศใช้ "พระราชบัญญัติองค์กรจัดสรรคลื่นความถี่และกำกับกิจการวิทยุกระจายเสียง วิทยุโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคม พ.
แดง ศัลยา มาการันตีความเข้มข้นขนาดนี้ แฟนๆ จะอดใจยังไงไหว! ปักหมุดรอชมไปพร้อมกันในละครนี้ครบรส "ซ่านเสน่หา" ทุกวันจันทร์-อังคาร เวลา 20. 30 น. ดูทีวีกด 33 ดูมือถือกด 3Plus
huduology.com, 2024